Hide and Seek with INORAN

            ความจริงตั้งใจจะอัพเรื่องนี้ตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วแล้วล่ะนะ แต่ว่าโดนเรื่องคอนเสิร์ตของX Japan ลัดคิวไปเสียก่อน เรื่องHide and Seek with INORAN ไม่ใช่เรื่องsingleใหม่ของINOหรอกนะ เพียงแค่บังเอิญชื่อมันไปพ้องกันเฉยๆ

            เมื่อกลางอาทิตย์ที่แล้วฉันนั่งระลึกความหลังด้วยการดู Extasy summit 1991 ดูINORANสมัยที่ยังงดงามแบบลึกลับ (อ่า... ความตั้งใจแรกคือจะดูXนะคะ แต่สุดท้ายก็จบที่INOเหมือนเดิมอ่ะ ^__^;;) ตอนที่Muteki bandเล่น คนยั๊วเยี๊ยะเต็มเวทีไปหมด ฉันเพ่งสายตาฝ่าฝูงคนและภาพที่คุณภาพไม่ดีนักเพื่อหาผู้ชายคนนั้น!!


            อิโน๊~ นายอยู่หนายยยยยยย~


            เป็นเรื่องที่รู้กันดีในหมู่ขี้ข้าว่า INORANไม่ค่อยชอบที่จะเป็นจุดสนใจ การดูMuteki bandเล่นเป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่าคำพูดนั้นเป็นจริง! (ก็INOมันก็พูดเองว่าเกลียดการเป็นจุดสนใจ แล้วเมิงจะพิสูจน์อีกทำไม?!) ผู้ชายคนนั้นหลบเก่งเหลือเกิ๊น~

            Anarchy in the U.K. - Muteki band 1991 มองหาINOในมุมมืด ณ ด้านขวาของเวที

แทรกกลางระหว่านักร้องวงvirus(?) กับ Ryuichi
ดูที่มือซ้ายของInoนะคะ กอดริวเข้าไปเต็มรัก!

หลบมาเม้าท์อยู่กับKuma

ทำหน้าดีใจแบบสุดๆ ช่วงจะจบเพลง

            Anarchy in the U.K. - Muteki band 1992 มองเห็นได้ง่ายขึ้น แต่บางภาพก็ไม่แน่ใจว่า ใช่เธอหรือเปล่า

เริงร่าอยู่กับเพ่J

ดี๊ด๊าอยู่กับSugi

 

ใครแอบเอากัญชาให้Inoกินหรือเปล่าวะ เริงร่าเหลือเกินคุณชาย!

            X - Muteki band 2008 งานนี้เล่นกีต้าร์เข้ากล้องบ่อยๆ มองเห็นได้ง่ายกว่าเดิมมากกกกกกก แต่ก็มีแอบหลบเหมือนเดิมอ่ะนะ (แหๆ INOไม่ได้หลบหรอก แค่กล้องมันไม่ถ่ายน่ะ)

ซีนที่Inoเด่น มันมีเยอะ แต่อย่าไปสนเลย
มาดูซีนที่มีInoซ่อนอยู่สนุกกว่า
(ผู้ชายเสื้อขาวคือใคร? ปล่อยมือจากของของเพ่J เดี๋ยวนี้นะ!!!!)

Ino: ที่ของข้าคือหน้าไมค์!!

แอบมาทำEvent เลือด(กำเดา)สาดกับRyuสองคน อย่าคิดว่าไม่มีใครเห็นนะ!!
(ซีนนี้ฉันว่ามัน RI ว่ะ)

เหมือนจะไร้ซึ่งอารมณ์ร่วมกับเพลง

ยืนเม้าท์กับคุณนิชิคาว่า

โผล่มาแบบลิบๆ

ไปเล่นกับHeath แต่เหมือนHeathจะไม่สน

กีต้าร์กับเบสมายืนเรียงกัน
ฉับพลันInoก็หันหลังกลับไป มองRyuที่กำลังsweetกับคุณนิชิคาว่า
และเดินหนีไปในที่สุด

 

หลังจากเดินหนีไปก็มีเด็ก(?)ที่ไหนก็ไม่รู้มาเสียบแทน
ส่วนInoก็ไปแทรกกาย กลาง อยู่ลิบๆระหว่างSugiกับPata

ซีนสุดท้ายของเพลง Inoยืนตบมือแปะๆ ก่อนจะหายตัวไปอย่างรวดเร็ว

           ช่วงนี้หวาดกลัวสายตาของตัวเองเหลือเกิน ความสามารถในการมองแย่แบบสุดๆไปเลย ดันไปเห็นพ่อหนุ่มDAIGO เป็นINORANซะนี่ ตาฉันเป็นอะไรไปแล้ว?! (สงสัยเพราะความรักที่มีให้อิโนะไม่มากพอ)
           แถมท้ายของวันนี้ Koala hug จาก Lunatic Tokyo ช็อตในตำนานของJI อิโนะเป็นฝ่ายเริ่มก่อนด้วยอ่ะ ยุคนั้นเป็นเรื่องหายากกกกกกกกกกกกก (ถ้าเป็นเสมัยนี้ล่ะก็ เห็นจนเบื่อละ!)

JI - Koala hug scene

Mood: เหนื่อยใจ ไม่ไหวแล้วโว้ย!

Earworm: Vanity - Yuki Kajiura

จองบัตรคอนเสิร์ตX Japan (และแอบเหมือนMeetingบอร์ดLuna Seaนิดๆ)

         วันนี้ไปจองบัตรคอนเสิร์ตX Japan 2011 world tour in Thailandมา เหนื่อยมาก แต่ก็สนุกสุดๆ เจอเพื่อนเยอะแยะเลย เพื่อนจากบอร์ดLuna Seaน่ะนะ

         ตื่นแต่เช้าไปถึงสถานที่จัดงานตอนหกโมงครึ่ง ตอนที่เดินบนSky walkก็ทำใจไว้แล้วแหละว่า คงมีคนมาบ้างแล้ว แต่เช้าขนาดนี้คงมีไม่เกิน200คนหรอกน่ะ! มองลงไปที่ลานจัดงาน ฉันแทบจะกรี๊ดออกมา แม่เจ้า! มาเยอะมาก!

นั่งต่อแถวเป็นคนที่ 345 เลขสวยเชียว~ เขียนไว้หลังฝ่ามือ

          รอ ร๊อ รอ จนเก้าโมงกว่ามั้ง ถึงได้รับบัตรคิว

คิวที่ 297 ร่นขึ้นมาอีกนิดนึง

         แล้วก็ต้องรออีกตามระเบียบ จนบ่ายกว่าๆนั่นแหละถึงได้จองตั๋ว รับบัตรจริงได้ตั้งแต่วันที่17 กันยา อีกน๊าน~ นาน

ทำไมมาวางไว้บนตัวผมละฮะ? แมวงง!

        
         หลังจากจองตั๋วเสร็จก็มารอลุ้นเหล่าเพื่อนๆร่วมบอร์ดที่มาทีหลังว่าจะได้นั่งโซนเดียวกันหรือเปล่า (กลุ่มนึงได้จองตั๋วตอนห้าโมง อีกกลุ่มได้จองตั๋วตอนเกือบทุ่ม!) สุดท้ายก็ได้นั่งโซนเดียวกันหมด

         บอกเพื่อนๆว่า วันงานจะยอมโอนสัญชาติมาเป็นขี้ข้าสายพันธุ์Soulmateสักวันละกัน ไปกรี๊ดป้าหงิกันให้เต็มที่ไปเล้ย! ก่อนแยกย้ายกันกลับ โดนคุณเพื่อนที่รักตอกย้ำให้ช้ำใจเรื่องInoจุ๊บRyuที่Hongkong ง่า~ เค้าไม่อยากรู้อ่า TT^TT ปล่อยให้เค้าได้ฝันถึงช่วงเวลาอันงดงามต่อไปเถอะนะ!


          จากข้อมูลในเพจของBECบอกว่า คนที่ได้คิวแรก มานั่งรอตั้งแต่เก้าโมงเช้าของวันเมื่อวาน กรี๊ด~ ความพยายามเป็นเลิศ! แต่ถ้าหากLuna Seaมาเล่น Liveที่เมืองไทย ต่อให้เช้ากว่าเก้าโมงฉันก็ยอมทำ!!

IS เค้ารับได้ แต่IR มันรับไม่ไหวในบางอารมณ์จริงๆ TT^TT

Mood: เหนื่อยๆ เพลียๆ

Earworm: Kimi ga Hikari ni Kaete Iku - Kalafina (เสียงalto ของKeikoดังก้องในหัวทั้งวันเลย)

        

Can you hear it? - เธอจะได้ยินอะไรในใจฉันไหม?

           หมกตัวอยู่กับThesisมา 2-3 วัน ทางบัณฑิตย์วิทยาลัยโทรมาบอกให้แก้แล้วแก้อีกซ้ำซาก เรื่องผู้เชี่ยญชาญก็ยังไปไม่ถึงไหน ตอนนี้เบื่อมาก!!!!!!

           เมื่อเป็นอย่างนี้มันก็ต้องแก้ปัญหาด้วยการเสพผู้ชาย จริงมั๊ย? (คำพูดออกจะติดเรทแฮะ) มาดู INORAN ในวัย 31กันเถอะ! ,,^____^,,

            Won't leave my mind เป็นพีวีซีรี่ย์ที่เหมือนจะเป็น Home video แต่ไม่ใช่ แฮะๆดูตอนแรกคิดว่า 'นี่ถ่ายเองที่บ้านเลยใช่มั๊ย อิโนะ?' ในพีวีซีรี่ย์นี้ชอบ PV Can you hear it? ที่สุด (เอ่อ... หรือจะให้ชอบPV #1 ล่ะ? แหม~ การนั่งดูหลอดIncandescentกระพริบ ติดๆดับๆ ช่างรื่นรมย์ดีแท้!!) เพราะPVนี้ถ่ายClose upหน้าของINORANน่ะสิ!! แถมINOยังแต่งหน้าบางมากกกกกกกกกกกก นับขี้แมลงวันบนหน้าได้เลยว่ามีกี่จุด (แต่ฉันยังไม่พยายามถึงขั้นนั้นนะ)

ชอบ INORAN ในภาพนี้เป็นพิเศษ ดูใบหน้าเขินอายนั่นสิ! น่ารักชะมัด!

 

INORAN so cold! สีหน้าเย็นชาอย่างนี้ ชอบจัง♥

            เอามารวมเป็นfile gif หึหึ

            ระหว่างดูไปcaptureภาพไป ความรู้สึกที่ว่า 'เป็นผู้ชายที่สวยจังนะ' มันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จริงอยู่สำหรับฉัน INORANสวยมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว (แม้แต่ตอนเป็นพี่หนวดก็ยังสวย!!! << ก็กรูมันFangirlนี่หว่า) แต่ไอ้การได้เห็นใกล้ๆอย่างนี้มันยิ่งตอกย้ำความคิดนั้นเข้าไปใหญ่ ผิวสวยมากค่ะ! ปากสีชมพูด้วย! หวาย~ เห็นแล้วอยากสาดเลือดกำเดาใส่จอมอนิเตอร์ชะมัด!

           ภาพส่งท้ายของวันนี้ INORANที่มาพร้อมฟันกระต่ายและเขี้ยว *q* เห็นด้ายตรงคอเสื้อรุ่ยด้วยว่ะ (เมิงดูอะไรของเมิง?) ภาพสีภาพเดียวของวัน เพราะถ้าเป็นภาพขาวดำ INOจะมีตาเยี่ยงปลาตายทีเดียว ไร้ประกายสิ้นดี

INORAN ใหญ่พิเศษ! ฮ่าๆๆ

              สาดรูปเสร็จก็ขอตัวล่ะนะ

SELVES กับ INORAN~♥

      วันนี้นั่งดูyoutube ไปเจอเพลง SELVES ของ LUNA SEA ก็อันเดียวกันที่อยู่ใน Mafuyu no Yagaiนั่นแหละ (เวลาดูแบบonline จะรู้สึกตื่นเต้นกว่าดูในแผ่น << ทำไมหว่า?)

      ได้เห็นฟันกระต่ายกับเขี้ยวของINOด้วย คิดถึงสมัยนั้นชะมัด!! เดี๋ยวนี้เล่นยกแผงใหม่หมด เห็นแล้วบางทีก็ขัดใจนะ ประมาณว่าตั้งใจจะ 'กำจัดซึ่งต้นเหตุแห่งความน่ารักให้สิ้น' อะไรเทือกนี้ใช่มั๊ย? แล้วสำเร็จมั๊ยล่ะ? (สำเร็จ!! แต่ไม่100% ตอนนี้ก็ยังน่ารักอยู่โว้ย!!!!!)       อ่า...กลับมาที่เพลงSELVESต่อนะ มันจะมีท่อนที่INORANพูดว่า

                               I want to convey this love with you
                               Until the color of the universe is true ...is true

        ช่วงกลางเพลงดูเหมือนโนะจะพูดอะไรที่มันนอกเหนือจากนี้ คนกำลังตั้งใจฟังว่าโนะมันบ่นอะไร คนดูมันจะกรี๊ดหาอะไรกันนักหนาฟะ?! <<แต่ตอนดู Mafuyu no Yagai รอบแรกก็กรี๊ดผสมโรงกับเค้าด้วยเหมือนกันน่ะนะ แหะๆ คงเพราะยุคนั้นเสียงของINOเป็นของหายากละมั้ง แต่ยิ่งกรี๊ดยิ่งไม่ได้ยินเสียงนะเฟ้ย!! (หาฟังยากถึงขนาดที่ฉันต้องเปิด 'REW<<' เพลง Time is dead ซ้ำๆ เพื่อฟังท่อนที่INOหลุดมาคนเดียว ฟังแล้วบ่นว่า 'เสียงเป็ดมากเลยอิโนะ!' แต่ก็ยังกรอกลับไปดูซ้ำอีกนั่นแหละ - ก็ฉันมันFangirlนี่หว่า ฮ่าๆๆ)

INORAN: งึมงำ~ งึมงำ~  is true ... is true  อันนี้ต้องโทษไมค์ใช่มะ? ไมค์ไม่ดัง แถมคนดูยังกรี๊ดเสียงดังอีก XD

ฟันกระต่ายกับเขี้ยวของINO!!

        การดูSELVES ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่สังเกตว่า SUGIมันปิดตาเล่นกีต้าร์นี่หว่า!! (แบบว่าปกติแล้วสายตาจะจับจ้องอยู่แต่โนะอ่ะ พอภาพคนอื่นขึ้นมาสายตาจะพร่ามั่ว ไม่เห็น ไม่รับรู้)    โห~ SUGIโชว์เหนือ! แต่ก็นะ เมื่อก่อนเคยปิดไฟทั้งฮอลล์เล่น the slain กลางความมืดมาแล้ว แค่ปิดตาเล่นSELVES อย่างSUGIทำได้สบายอยู่แล้ว จริงมั๊ย!

SUGIZO ปิดตาเล่นguitar

        มีคนคอมเม้นต์ในคลิปประมาณว่า 'แย่งกันเด่น'  ไม่หรอกนะ! ฉันไม่คิดอย่างนั้น! จากมุมมองที่กลั่นกรองผ่านความวาย เอ่อ...ความรัก ฉันเชื่อว่ามันเป็นข้อตกลงที่ว่า 'ฉันจะยอมปิดตาเล่นกีต้าร์ เพราะงั้นอิโนะ...นายร้องคอรัสในSELVES เถอะนะ' <<แล้วมันวายตรงไหน?  ก็มันช่วยแชร์สายตาคนดู ช่วยลดความกดดันให้อิโนะเห็นๆเลยนี่ไง!! จะว่าวายมันก็ไม่วายหรอก แต่เป็นเงื่อนไขที่อบอุ่นอ่อนโยนมากพอที่เพื่อนจะทำเพื่อเพื่อนได้อ่ะนะ (เขียนเอง งงเองว่ะ นี่กรูจะสื่ออะไร??)

        ตบท้ายด้วยการแปลเพลง แบบงงๆและมั่วๆว่ะค่ะ!!!!

SELVES

I want to convey this love with you
Until the color of the universe is true

เธอมาจากที่แห่งใดกัน? มาเพื่อตามหาความฝัน หรือว่า...
เพียงเพราะถูกพัดพามาด้วยความปรารถนา ...ตอบฉันมาสิ

เสียงกระซิบที่เต็มไปด้วยความกังวล ถูกพัดหายไปด้วยกระแสของกาลเวลา

ในตอนนี้ สิ่งที่ฉันจำได้มีเพียง
คือท่วงทำนองอันแสนอ่อนโยนที่ได้ยินในท้องทะเล ก่อนที่ฉันจะลืมตาตื่นขึ้น

ทุกสิ่งที่ได้เห็นเป็นครั้งแรกนั้นดูช่างน่าตื่นตา

โลกที่ถูกระบายไว้ด้วยช่วงเวลาปัจจุบัน มีเพียงความเย็นชา
เย็นชาเสียจนไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด

โลกที่ฉันได้พบกับเธอ กำลังพังทลายลง
จักรวาลเอ๋ย ไยจึงไม่ตอบคำถามของฉัน?

แสงไฟที่ส่องสว่างของเมืองอันไม่เคยหลับไหล ส่งสัญญาณไปสู่จักรวาล
ราวกับเป็นการร้องขอความช่วยเหลืออย่างสุดกำลังจากผืนโลกที่กำลังจะจมหายไปนี้

โลกที่ถูกระบายไว้ด้วยช่วงเวลาปัจจุบัน มีเพียงความเย็นชา 
เย็นชาเสียจนความอ่อนโยนกลายเป็นเพียงสิ่งที่คอยขัดขวาง
ความรู้สึกของฉันที่มีต่อช่วงเวลานี้รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
เพราะฉะนั้น จักรวาลเอ๋ย ช่วยตอบคำถามฉันทีเถอะ
จะยอมอุทิศซึ่งชีวิตนี้ เพื่อปกป้องอนาคตที่ได้สัญญากับเธอไว้

อยากถ่ายทอดมันไปถึงเธอ ให้ความรักสลักลึกลงในกาลเวลา
เพื่อที่ความอบอุ่นนี้จะได้ไม่จางหายไป

อยากถ่ายทอดความรู้สึกนี้ไปถึงเธอ ให้ความรักสลักลึกลงในห้วงแห่งกาลเวลา

ให้ความรู้สึกอันเร่าร้อนนี้คงอยู่ชั่วนิรันดร์ ...ให้มันกลายเป็นนิรันดร์

        อยากให้LUNA SEAเล่น SELVESอีกสักครั้ง (หรือหลายๆครั้ง) อยากจะเห็นว่าผู้ชายนิ่งๆ ที่เดี๋ยวนี้กลายร่างเป็นผู้ชายลั้ลลาแต่พยายามเก็กขรึมคนนั้น จะพูดเสียงดังกว่าใน Mafuyu no Yagaiหรือเปล่า สำเนียงENGของโนะก็ดีใช่ย่อยนี่นา ตะโกนออกมาดังๆเหมือนที่เพ่Jตะโกนว่า "so what so what you shout the f**k up" ไปเล้ย!

INORAN จาก pv HERE WE GO

สายตาและรอยยิ้มช่างเชือดเฉือดใจดีแท้ ชอบบบบบบบบบบบบ

Mood: เริงร่าสุดชีวิต

Earworm: からくり卍ばーすと - Kagamine Rin & Len (วันนี้มีเด็กมาเปิด4-5รอบในห้องสมุด ฝังลงไปในหัวเลย -*-)

Moon เพลงรักของสองวงพี่น้อง

            ถ้าพูดถึงเพลงmoon ฉันจะนึกถึง moonของ SIAM SHADEก่อนเป็นอันดับแรก แปลกนะ ทั้งที่เป็น fangirl ผู้เสพ LUNA SEA แทนอาหารหลักแท้ๆ (อันนี้เวอร์ว่ะ!!)

            สำหรับฉันแล้ว เพลง moon ของ LUNA SEA ทำให้นึกถึงความห่างไกล (กับภาพมือของ INO ที่ค่อยๆเลื่อนไปจับคอร์ดอย่างเกียจคร้าน เชื่องช้า อย่างที่เห็นใน'REW<<') แต่ตัวเพลงกลับทำให้ฉันรู้สึกถึงความศักดิ์สิทธิ์และอบอุ่นซะงั้น (อันนี้คงเป็นเพราะlightingเวลาเล่น live ละมั้ง)

            ในขณะที่ moon ของ SIAM SHADE ทำให้นึกถึงการปลอบประโลมคนรัก แต่เสียงร้องของHIDEKI กลับทำให้รู้สึกถึงความเจ็บปวด เพราะงั้นละมั้ง มันถึงได้เสียดแทงและฝังใจของฉันมากกว่าของLS

             ไหนๆก็ไหนๆแล้ว แปลเพลงเล่นมันซะเลย (ความถูกต้องต่ำมากถึงมากที่สุดอ่ะนะ) อันบนเป็นของLS อันล่างเป็นของSS นะ (เรียงตามอาวุโส วงพี่มาก่อน วงน้องตามมาที่หลัง เข้าใจ๋?)

Moon

ถูกโอบล้อมด้วยม่านหมอก
จนมองอะไรไม่เห็น
เห็นเพียงภาพเงาจากหมอกที่บดบัง และ...
...มันทำให้ฉันคิดถึงดวงจันทร์

ฉันเคยคิดว่า เราไม่ต้องการเส้นทางที่ง่ายดาย
ที่จะนำพาเรายังที่ไหนสักแห่ง
แต่เราสองยังคงเดินหลงอยู่บนเส้นทางต่อไป...

แม้ไม่สิ่งใดเปลี่ยนแปร
แต่ฉันกลับเหน็ดเหนื่อยกับการเดินเพียงลำพัง
ความรู้สึกอันไม่อาจเอื้อนเอ่ยที่มีต่อเธอนี้ มันท่วนท้นหัวใจ
จนฉันไม่อาจขยับเขยื้อนหรือทำอะไรได้

ท่วงทำนองนี้คงส่งไปไม่ถึงเธอ
ในห้วงคำนึงของเธอนั้น จะมีฉันอยู่หรือเปล่า?
ได้โปรด...เรียกหาฉัน...

รวบรวมแสงจันทร์อันพร่าเลือน
ส่งไปยังหัวใจที่ปิดผนึกของเธอ
ลึก...ลึกลงไป

จนกว่าท่วงทำนองนี้จะส่งไปถึงเธอ
ฉันจะคิดถึงเพียงแค่เธอ
ภายในหัวใจที่ปิดผนึกของตัวฉันเอง
ลึก...ลึกลงไป

ถูกโอบล้อมด้วยม่านหมอก
จนมองอะไรไม่เห็น
เห็นเพียงภาพเงาจากหมอกที่บดบัง และ...
...มันทำให้ฉันคิดถึงเธอ

Moon

โดยไม่เอื้อนเอ่ยคำใด ฉันจ้องมองผืนฟ้าในค่ำคืนนี้
ไม่ว่าเธอหลงทางอยู่ท่ามกลางความมืดมิดเช่นไร ขอให้ฉันเป็นดั่งดวงจันทร์

ไม่หันกลับไปมอง จะสนเพียงปัจจุบันเท่านั้น
ความเจ็บที่เกิดจากการโอบกอดกันไว้จนแนบสนิท จะช่วยเยียวยาบาดแผลในอดีตได้อย่างแน่นอน

แผดเผาเรื่องแย่ๆในใจทิ้งไปให้หมด จากนี้ไป บางสิ่งกำลังจะเริ่มขึ้น

ถ้าเธออยากร้องไห้ ก็ร้องออกมาเถอะ อย่ากลั้นมันไว้เลย
ร้องจนกว่าน้ำตาจะเหือดแห้ง แล้วโยนเรื่องบ้าๆพวกนั้นทิ้งไปซะ

ค่ำคืนที่ยุ่งเหยิง เสียงเข็มนาฬิกาดังก้อง
ไม่จำเป็นต้องเอามือของเธอปิดหูไว้ ก็แค่อย่าไปสนใจมัน ตอนนี้เราอยู่ในโลกของเราสองคน

เธอเป็นดวงอาทิตย์ ฉันเป็นดวงจันทร์ อยากให้วันใหม่เริ่มต้นเมื่อไหร่ขึ้นอยู่กับเรา

ถ้าเธออยากร้องไห้ ก็ร้องออกมาเถอะ อย่ากลั้นมันไว้เลย
ร้องจนกว่าน้ำตาจะเหือดแห้ง ภายในอ้อมกอดของฉัน
I just want your right - โอบกอดไหล่บอบบางที่สั่นเทานั้นไว้แน่น
I just hold you tight - ตื่นขึ้นจากความฝันอันไร้จุดจบ

ถ้าเธออยากร้องไห้ ก็ร้องออกมาเถอะ อย่ากลั้นมันไว้เลย
ร้องจนกว่าน้ำตาจะเหือดแห้ง ภายในอ้อมกอดของฉัน
ถ้าเธออยากร้องไห้ ก็ร้องออกมาเถอะ ปลดปล่อยมันออกมา
ร้องจนกว่าน้ำตาจะเหือดแห้งจากใจเธอ
I just want your right - ถ้าเธอรู้สึกถึงแสงจันทร์ที่แฝงอยู่ท่ามกลางความมืดมิด
I just hold you tight - ให้แสงนั้นโอบกอดเธอไว้อย่างอ่อนโยน

ไม่มีอะไรจะพูดมากไปกว่านี้ ฉันเพียงแค่อยากจะอยู่เคียงข้างเธอ
ดั่งดวงจันทร์สาดแสงอย่างมั่นคง ไม่ว่าค่ำคืนหรือรุ่งเช้าจะเปลี่ยนไปเท่าไร

              อ่านเนื้อเพลงของSSทีไร เหมือนได้อ่านเนื้อเพลงเพื่อชีวิตอ่ะ (เป็นคำชมนะไม่ได้ประชด โดยเฉพาะเพลงที่HIDEKIแต่งเนี่ย)



              จบเรื่องที่(ดูเหมือนจะ)มีสาระแล้ว มาต่อด้วยเรื่องของท่านผู้เป็นที่รักสักหน่อยดีกว่า (ก็blogนี้มีไว้screamผู้ชายนี่!)
              พูดถึงความมึนตึงระหว่างJ กับ INO ในOne Night Dejavu (เก่าเชียว!)  ใช่! ตอนแรกฉันกังวลมากเลยนะ  จนเห็นตอนที่สองคนนี้ยิ้มให้กัน ก็โล่งใจไปนิดว่า "อย่างน้อยก็ยังยิ้มให้กันล่ะ" ถึงแม้จะรู้สึกได้ถึงความตะขิดตะขวง ประดักประเดิดระหว่างคู่นี้ในหลายช่วงของliveก็ตาม (ให้ความรู้สึกเหมือนคู่รักที่เลิกกันไปแล้ว ต้องกลับมาเจอกันชะมัด!) แต่สิ่งที่ทำให้ฉันสบายใจ โล่งใจสุดๆไปเลยก็คือช็อตนี้!

LUNA SEA - OND

เห็นอะไรป่ะ? โนะเป็นของกรู!!! อันนั้นม่ายช่ายยยยยยยยยย

นี่ตะหาก

\/

\/

\/

\/

JI Forever!!

ตอนseno เค้าจับมือกับแบบประสานมือด้วยล่ะ

            ฉันเห็นแล้วกรี๊ดลั่นห้องพร้อมกับพ่นเลือดกำเดา

            "ฝ่ามือเล็กที่ยื่นออกไปถูกประสานด้วยมือใหญ่ ก่อนที่ทั้งสองจะเกาะกุมกระชับมือของอีกฝ่ายเอาไว้แน่นหนาดั่งความสัมพันธ์ของคนทั้งสอง"

            เสียเลือดไปอีก2แกลลอน จบดีกว่า!

    

Mood: เหนื่อยกาย แต่ใจยังสู้!

Earworm: World is mine - Hatsune Miku (เพราะวันนี้โดนบังคับฟังไปอย่างน้อย3รอบ)